|
 |
|
|
วันที่ลงข่าว 11/09/2023 เวลา 13:50:05 |
|
ด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชชนก และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชชนนี ที่ทั้ง 2 พระองค์ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และเพื่อให้ชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันแผ่ไพศาลนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) จัดนิทรรศการ 2 กษัตริย์นักพัฒนา สืบสาน รักษา ต่อยอด ที่เต็นท์สีขาวบริเวณหน้าประตูสวนอัมพร ณ พระลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้า
โดยการจัดนิทรรศการในห้องที่ 1 เมื่อเดินเข้าไปภายในเต็นท์สีขาวขนาดใหญ่ที่ดูเรียบง่าย หากแต่เมื่อได้สัมผัสกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านั้นทุกคนจะได้ซาบซึ้งในความยิ่งใหญ่และความรักที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ทั้งภาพพระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถ ของ ทั้ง 2 พระองค์ทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้พ้นจากความทุกข์ยาก และให้มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ขณะเดียวกันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นพระราชโอรส และทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี ก็ได้ทรงน้อมนำพระราชกรณียกิจ ของพระราชบิดา และพระราชมารดา ทั้งด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ สวัสดิการสังคม การเกษตร สาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ และสิ่งแวดล้อม ไปดำเนินตามรอยพระยุคลบาทของล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ เพื่อเป็นการ สืบสาน รักษา และขยายผลต่อยอดในสิ่งที่พระราชชนก และพระราชมารดา ได้ทรงวางแนวทางไว้ เพื่อให้ราษฎรของพระองค์ดำรงชีวิตด้วยความยั่งยืน ร่มเย็นและเป็นสุขสืบไป
ทั้งนี้ด้านซ้ายมือของนิทรรศการยังประกอบด้วยพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการทหาร ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านการพัฒนาการเกษตร ด้านการต่างประเทศ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านศาสนา ด้านการศึกษา
สำหรับด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ "สายน้ำ แห่งพระเมตตา" อันเป็นการสืบสานและต่อยอดงานของพระราชชนกนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 15 โครงการ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อาทิ โครงการก่อสร้างฝายบ้านเขาแดงพัฒนา , โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยป่าสักพร้อมระบบส่งน้ำ เป็นต้น
นอกจากนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ได้ทอดพระเนตรเห็นความเดือดร้อนของพสกนิกรชาว ตำบลยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ที่ขาดแคลนน้ำใช้ในการอุปโภค และบริโภค จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้ช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความทุกข์แสนสาหัส ด้วยการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กเพื่อเป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้และยังได้พลิกฟื้นพื้นดินที่แห้งแล้งให้มีความอุดมสมบูรณ์สามารถปลูกพืชผลไม้นานาพันธุ์ที่ให้ผลผลิตที่สมบูรณ์และมีคุณภาพ เป็นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่สร้างชื่อเสียงให้แก่ชุมชนและจังหวัดในฐานะแหล่งปลูกพืชผักผลไม้คุณภาพดีของจังหวัดราชบุรีสร้างความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ จนเป็นที่มาของการจัดทำ โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2545-2559 และด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีอย่างต่อเนื่องในทุกวันนี้ สามารถดำเนินการการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรมากกว่า 3.4 ล้านคน
ส่วนโซนสุดท้ายของนิทรรศการนั้นได้มีการจัดแสดงโมเดลแสดงถึงผลสำเร็จจากโครงการคลินิกเกษตรตลอดจนแอพพลิเคชัน "สุขพอที่พ่อสอน" และ "สุขแท้ที่แม่ให้" ที่ผู้ใช้ทุกคนสามารถสแกนคิวอาร์ โคด ผ่านแอพพลิเคชันไลน์ ที่ขึ้นอยู่ด้านหน้า เมื่อสแกนเสร็จแล้ว ทั้ง 2 แอพพลิเคชัน จะรวบรวมพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระบรมฉายาลักษณ์ พระราชดำรัส ของทั้ง 2 พระองค์ไว้ในไลน์เพื่อให้ทุกคนสามารถดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย รวมทั้งจัดแสดงห้องทรงงานและของใช้ส่วนพระองค์
ประชาชนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึง เดือนสิงหาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.ถึง 20.00 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ พระลานพระราชวังดุสิต |
|
|
|
|